แสงไฟในบ้านช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้

แสงสลัวจากไฟในบ้านกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ยังไง ?

หากพูดถึงไฟในบ้าน หลายคนคงนึกถึงหน้าที่การส่องสว่างที่ช่วยให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างแรก โดยเฉพาะบริเวณห้องนั่งทำงานที่เรามักมองควรมีความสว่างมากเป็นพิเศษ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ หรือต้องผลิตไอเดียสดใหม่ (Creative) อยู่ตลอดเวลา การจัดไฟในบ้านแบบสลัวๆ หรือจัดไฟแบบอ่อนๆ อาจเหมาะกับคุณมากกว่าใคร เพราะสามารถช่วยเร่งความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี 



แสงสลัวช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)

การมี “ความคิดสร้างสรรค์” หรือไอเดียที่สดใหม่ ล้วนมีประโยชน์ต่อการทำงานในหลายๆ สายอาชีพ ซึ่งบ่อยครั้งที่ความคิดเหล่านั้นมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ทั้งยังมีทฤษฏีที่น่าสนใจว่าด้วยการใช้แสงสลัวมาจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ โดยมีผลวิจัยจาก Department of Building Physics ของมหาวิทลัย Stuttgart ประเทศเยอรมัน พบว่า การที่คนเราอยู่ในที่สลัวๆ หรือในแสงไฟอ่อนๆ จะช่วยเร่งความคิดสร้างสรรค์ได้ดีที่สุด และรองลงมาคือแสงธรรมชาติเพราะผู้ที่อยู่ในแสงสลัวๆ มักจะไม่สังเกตเห็นสิ่งเร้ารอบตัว จึงสามารถตั้งสมาธิ หรือตกอยู่ในภวังค์แห่งการคิดได้ดีกว่านั่นเอง


เพิ่มแสงสว่าง ติดไฟในบ้านให้ครบห้อง

แม้แสงไฟสลัวๆ จะช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และทำให้เรามีเวลาจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ดีกว่า แต่เมื่อเข้าสู่โหมดกลางคืนของบ้าน ‘ความสว่าง’ คือประโยชน์หลักที่ช่วยให้เรามองเห็นและใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติต่อไปได้ นอกจากมุมนั่งทำงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์เป็นพิเศษ ควรเพิ่มความสว่างของไฟในบ้านให้ห้องต่างๆ ดังนี้


แสงไฟสลัวในห้องนอนเพิ่มบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายแสงไฟสลัวในห้องนอนเพิ่มบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลาย

  • ห้องนอน 

พื้นที่ห้องนอนเป็นอีกหนึ่งมุมห้องที่ควรมีแสงสลัวไว้ เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับง่ายขึ้น โดยแนะนำให้เลือกใช้สีแสงไฟอบอุ่น (Warm white)ที่ให้แสงนวลตา โดยเลือกตำแหน่งให้เหมาะสม เช่น หัวเตียง เพดานห้อง หรือแม้แต่การนำโคมไฟมาวางไว้ในบางมุมของห้อง เพื่อควบคุมความสว่างภายในห้องให้เหมาะสมนั่นเอง


จัดแสงไฟในห้องครัวให้สว่างมากพอช่วยมองเห็นข้าวของเครื่องใช้จัดแสงไฟในห้องครัวให้สว่างมากพอช่วยมองเห็นข้าวของเครื่องใช้


  • ห้องครัว

นับเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ควรติดตั้งไฟส่องสว่างไว้ให้มากพอ เพื่อให้มองเห็นข้าวของเครื่องใช้จำเป็นมากที่สุด และควรเป็นไฟหลอดสีขาวที่ไม่แสบตา ทั้งนี้ทั้งนั้นการติดตั้งไฟภายในบ้านอย่างห้องครัว อาจขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละครัวเป็นหลัก หากใครมีพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้สำหรับนั่งรับประทานอาหาร สามารถดัดแปลงสีไฟให้ดูอบอุ่นชวนหิวได้มากขึ้น หรือจะดึงเทคนิคแสงสลัวมาใช้กับห้องครัวก็ย่อมได้


ห้องรับเเขกเแสงไฟสลัวสไตล์หรูหราต้อนรับเเขก

  • ห้องรับแขก

ศูนย์กลางไฟในบ้านที่สว่างมากที่สุดคงต้องยกให้ห้องรักแขก ด้วยรูปแบบห้องที่อยู่จุดกึ่งกลางของตัวบ้าน บวกกับฟังก์ชันการใช้งานที่ไว้รองรับกิจกรรมต่างๆ นอกจากไว้สำหรับรองรับแขกผู้มาเยือน ทำให้โซนนี้เป็นอีกหนึ่งห้องที่ต้องการแสงสว่างมากที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้นควรเลือกใช้หลอดไฟที่กลมกลืนไปกับสไตล์ห้องรับแขกร่วมด้วย เช่น สไตล์เรียบหรูควรเลือกใช้หลอดไฟสีอุ่นๆ ส่วนสไตล์มินิมอลควรเลือกใช้หลอดไฟสีขาว เป็นต้น 


ไฟห้องน้ำต้องสว่างมากพอและเสริมด้วยอุปกรณ์สำหรับผู้สูงวัยไฟห้องน้ำต้องสว่างมากพอและเสริมด้วยอุปกรณ์สำหรับผู้สูงวัย

  • ห้องน้ำ

สำหรับครอบครัวไหนที่มีผู้ใหญ่ หรือผู้สูงวัยอาศัยอยู่ด้วย พื้นที่ห้องน้ำถือเป็นอีกหนึ่งโซนที่ต้องการความสว่างอย่างทั่วถึง รวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์พิเศษในห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ราวจับช่วยพยุง เก้าอี้นั่งอาบน้ำ และวัสดุอื่นๆ ให้เอื้อต่อการใช้งาน เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุลื่นหกล้มให้มากที่สุด


บันไดทางเดินที่ต้องมีแสงไฟส่องถึงเพื่อป้องกันอันตรายทั้งเด็กและผู้ใหญ่บันไดทางเดินที่ต้องมีแสงไฟส่องถึงเพื่อป้องกันอันตรายทั้งเด็กและผู้ใหญ่บันไดทางเดินที่ต้องมีแสงไฟส่องถึงเพื่อป้องกันอันตรายทั้งเด็กและผู้ใหญ่

  • บันไดและทางเดิน

อีกหนึ่งมุมบ้านที่ต้องการไฟในบ้านมากไม่แพ้กันโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน เพื่อให้มองเห็นพื้นที่ทางเดิน และขั้นบันไดมากขึ้น ซึ่งนอกจากการติดไฟบริเวณผนังทางเดิน เรายังสามารถเติมไฟตรงช่วงทางเดินเท้าของขั้นบันไดด้วยได้ แถมยังเป็นดีไซน์ตกแต่งภายในแบบใหม่และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

อ่าน LH Living Tips ดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.lh.co.th/th/lh-living-concept/living 

ติดต่อสำนักงาน โทร. 1198

เปิดทำการทุกวัน (ในเวลา 09.00-17.30 น.)

ขอบคุณภาพจากโครงการ : CHAIYAPRUEK Bangna km 15 , NANTAWAN ปิ่นเกล้า-กาญจนา , บ้านมัณฑนา , indy บางใหญ่(2) , บ้านคู่ anya

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ