วิธีเลือกที่นอนให้นอนหลับสบาย

วิธีเลือกที่นอนที่ไม่ทำให้เมื่อยตัว ไม่กักไรฝุ่น และนอนหลับสบาย

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอกับปัญหาอาการปวดเมื่อยตัว ปวดหลัง หลังจากตื่นนอน บางคนอาจจะมีปัญหาหนักกว่านั้นคือนอนหลับไม่เพียงพอ หลับไม่เต็มอิ่ม เพราะอาการปวดเมื่อย และอีกหนึ่งปัญหาสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่มักจะต้องประสบกันอยู่บ่อยๆ ก็คือปัญหาเรื่องไรฝุ่น หนึ่งในสาเหตุของปัญหาทั้งหมดนี้หลายๆ ครั้งเกิดขึ้นจากการเลือกที่นอนไม่ดีเพียงพอ เลือกที่นอนไม่เหมาะกับการนอน ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย วันนี้เราจะมาจบปัญหานี้ด้วยกันกับการเลือกที่นอนที่เหมาะสม ไม่ทำให้เราเมื่อยตัว ไม่กักไรฝุ่น

ปัญหาของการเลือกนอนที่ไม่เหมาะกับสรีระร่างกายคือทำให้เรานอนหลับไม่สบาย อยู่ในท่าที่ไม่เหมาะกับสรีระของร่างๆกาย เมื่อสะสมทั้งคือก็จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยในตอนตื่นนอน การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างการนวดหลังเมื่อเกิดอาหารปวดเมื่อยแล้วอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดี เมื่อเทียบกับแก้ปัญหาที่ต้นเหตุนั่นก็คือการเลือกที่นอนที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามสรีระ วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับการเลือกที่นอนให้เหมาะกับตัวคุณมาฝากกัน ไม่แค่นั้นประเภทของที่นอนยังเป็นอีกปัจจัยเสริมที่ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายตลอดคืนอีกด้วย


เลือกที่นอนหลับสบาย


ประเภทของที่นอน

ก่อนอื่นคุณต้องทำความรู้จักประเภทของที่นอนเสียก่อนเพราะที่นอนมีให้เลือกหลากหลายประเภท ตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต ซึ่งความแตกต่างของเตียงนอนแต่ละประเภทจะเป็นเรื่องของผิวสัมผัสในการนอน ความนุ่ม ความทนทาน และการยุบตัวของที่นอน ซึ่งที่นอน 3 ประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ที่นอนยางพารา ที่นอนสปริง และที่นอนใยมะพร้าว ซึ่งมีข้อดีแตกต่างกันออกไป ควรเลือกซื้อที่นอนให้ตรงกับความต้องการและเหมาะกับสรีระของตัวเองมากที่สุด


ที่นอนยางพารา

ที่นอนยางพารา เป็นที่นอนที่มีหน้าตาคล้ายที่นอนฟองน้ำ แต่จะมีความยืดหยุ่นและทนทานกว่า จุดเด่นคือไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป สามารถรองรับสรีระโค้งเว้าของผู้นอนได้ดี ทำให้นอนหลับสบาย ซึ่งประเภทที่นอนยางพาราหลักๆ จะมีอยู่ 2 ประเภทก็คือ ที่นอนยางพารา 100 % กับที่นอนยางพาราอัด ทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกันที่วัสดุในการใช้ผลิต โดยที่นอนยางพาราอัดจะใช้เศษยางพารามาอัดรวมกันเป็นก้อน ทำให้มีเนื้อที่แข็งกว่า เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเตียงนอนที่นุ่มจนเกินไป 

ส่วนที่นอนยางพาราแท้จะใช้วิธีฉีดน้ำยางลงไปในแม่พิมพ์ เพื่อขึ้นรูปเป็นที่นอน ทำให้มีความยืดหยุ่นและนุ่มมากกว่าเหมาะกับการพักผ่อนในวันที่เหนื่อยล้าและคนที่ไม่ชอบพลิกตัวมากจนเกินไป ปัจจุบันที่นอนยางพาราทั้ง 2 ประเภทได้รับความนิยมมากในประเทศไทยเพราะจุดเด่นของที่นอนยางพาราก็คือ การไม่สะสมความชื้นและไม่เก็บฝุ่นละอองเหมือนวัสดุชนิดอื่นๆ ดังนั้นถ้าคุณให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องฝุ่น ที่นอนยางพาราเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ แถมยังระบายอากาศได้ดี ช่วยบรรเทาอากาศปวดหลังได้ เหมาะกับผู้สูงอายุ


ที่นอนสปริง

ที่นอนสปริง เป็นที่นอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเภทที่นอนแบบต่างๆที่มีวางขายในปัจจุบัน  เนื่องจากมีความหลากหลายให้เลือกซื้อได้ตามประเภท คุณภาพ และราคา จุดเด่นของที่นอนสปริง คือเป็นที่นอนที่มีความยืดหยุ่นที่ค่อนข้างสูง รองรับสรีระผู้นอนได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคนที่ชอบนอนแบบนิ่มๆ และชอบนอนตะแคง (รวมถึงนอนคว่ำ) ซึ่งจุดเด่นของที่นอนสปริง คือความนุ่มและเด้ง 

อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นอนสปริงก็คือเป็นเตียงที่มีน้ำหนักเบา และตัวสปริงจะบรรจุอยู่ทั่วเตียงทำหน้าที่กระจายน้ำหนักของร่างกายได้ดี ทำให้ไม่ให้เกิดแรงกดทับของสรีระส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป ไม่ปวดบริเวณไหล่ในขณะที่นอน และถ้าเป็นรุ่นที่มีการผลิตดีๆก็จะไม่สะสมความชื้นและกักเก็บฝุ่น สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย เทคโนโลยีปัจจุบันมีการผลิตเตียงสปริงที่มีเกลียวสปริงมากซึ่งจะช่วงยืดหยุ่นและรองรับน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น (มาพร้อมราคาที่สูงขึ้น) และยังมีทั้งสปริงแบบอิสระที่เรียกว่า Poster Tech และพัฒนาขึ้นเป็นสปริงอิสระที่เหมาะกับเตียงคู่อย่าง Pocket Spring ให้เลือกซื้อตามความต้องการ


ที่นอนใยมะพร้าว

เป็นที่นอนที่ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติอย่างเส้นใยของกาบมะพร้าวนำมาอัดกันเพื่อขึ้นรูปเป็นเตียงนอน โดยการอัดขึ้นรูปด้วยกาวให้เป็นก้อนที่นอนขึ้นมา จากเส้นใยที่เหนียวและแข็งแรงกลายเป็นเตียงนอนนุ่ม จุดเด่นของที่นอนประเภทที่ทำมาจากใยมะพร้าวคือมีความแน่นตัน ไม่ยุบตัว คงสภาพได้ดี และอีก 1 จุดเด่นของที่นอนใยมะพร้าวที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบันคือ มีความเป็นมิตรกับธรรมชาติ มีน้ำหนักเบา ดูแลง่าย เหมาะกับผู้สูงอายุ ที่มีอาการปวดหลัง เนื่องจากที่นอนใยมะพร้าวมีคุณสมบัติช่วยแก้อาการปวดหลังจากการนอนได้ (เหมาะกับคนที่ไม่ชอบที่นอนที่ยุบตัวมากจนเกินไป) แต่เมื่อที่นอนประเภทนี้เสื่อมสภาพแล้ว ไม่ควรฝืนใช้ต่อ นอกจากจะเป็นที่กักเก็บฝุ่นละอองจากการเปื่อยยุ่ยของที่นอนแล้ว ยังเป็นที่สะสมเชื้อโรคอีกด้วย อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของผู้นอน ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจควรระวังในกรณีที่นอนใยมะพร้าวเก่าจนเกินไป ทำให้ที่นอนใยมะพร้าวไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือผู้ที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ


เลือกขนาดที่นอนที่ทำให้หลับสบาย


การเลือกขนาดของที่นอน

หลังจากเลือกประเภทของที่นอนที่เหมาะสมกับความต้องการได้แล้ว ปัจจัยถัดมาเป็นเรื่องเรื่องของขนาดที่นอน อันที่จริงแล้วจะบอกว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญอันดับแรกในการเลือกที่นอนเลยก็ว่าได้ ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆมากมาย อาทิเช่น ขนาดของห้องนอน ขนาดของเตียงนอน จำนวนคน เป็นต้น หลักๆแล้วที่นอนจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆก็คือ เตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ซึ่งเตียงเดี่ยวจะมีขนาดประมาณ 3 ฟุตถึง 3.5 ฟุต เหมาะกับการนอนคนเดียว และในส่วนของเตียงคู่จะมีให้เลือกมากขึ้น คือ 5,6,6.5 และ 7 ฟุต เหมาะกับการนอน 2 คน (หรือ 3 คน)


ข้อควรระวังในการเลือกที่นอน


ข้อระวังในการเลือกที่นอน

เราไม่ควรเลือกที่นอนที่มีความนุ่ม และยุบตัวมากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้มีปัญหาปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเรื้อรังได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดภาวะตึงของกล้ามเนื้อได้เช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 ปัญหานี้อาจจะอาจลามไปถึงปัญหาสุขภาพในระยะยาวที่ต้องรักษาในราคาที่แพงกว่าราคาเตียงนอนเป็น 10 เท่าได้ ดังนั้นการเลือกที่นอนที่ดีควรเลือกให้เหมาะสมกับสรีระของตนเอง และเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสรีระเพื่อให้ตัวเรามีสุขภาพที่ดีขึ้นนั่นเอง 

สุดท้ายนี้การเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับการใช้งาน สรีระของผู้นอน ไม่กักเก็บฝุ่นและความชื้น เหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเรา เป็นอีกเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณผ่อนคลาย นอนหลับสบายมากขึ้น รวมไปถึงสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ไม่เกิดความหงุดหงิดจากอาการปวดหลัง เมื่อยเนื้อตัว หวังว่าข้อมูลที่เรานำมาฝาก จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกที่นอน เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีขึ้นของคุณและสมาชิกในครอบครัวได้ค่ะ

เลือกที่นอนอย่างไรให้หลับสบาย


ขอบคุณภาพสวยๆ จากโครงการ  คอนโดฯ The Bangkok / Villaggio รังสิต คลอง2 / Villaggio ปิ่นเกล้า - ศาลายา / indy Westgate

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ