
เคล็ด(ไม่)ลับปลูกผักสวนครัวในบ้าน รับเทรนด์สุขภาพแห่งปี!
นอกจากเทรนด์รักษ์โลก ช่วยลดโลกร้อน การปลูกผักสวนครัวในบ้านถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะพืชผักสวนครัวที่เหล่าแม่ครัว พ่อครัวใช้ทำอาหารเป็นประจำ นอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ยังได้ผักปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพที่ดี แถมยังได้ประโยชน์มากกว่าที่คิดจากกิจกรรมง่ายๆ อย่างการปลูกผักสวนครัวในบ้านอีกด้วย
เพราะการปลูกผักสวนครัวในบ้าน นอกจากจะได้เป็นเจ้าของพืชผักปลอดสารแบบ 100% แล้ว เวลาส่วนใหญ่ที่ใช้ไปกับการปลูกผักสวนครัวในกระถางยังได้อะไรมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะผู้ที่โหยหาความสงบ อยากหลีกหนีความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ลองมาปลูกผักสวนครัวในบ้านช่วยได้แน่นอน
การปลูกผักสวนครัวในกระถางเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายๆ นอกจากเราจะได้เรียนรู้วิธีบำรุงดูแลพืชผักสวนครัวใหม่ๆ เรายังจะได้ทำความเข้าใจประเภทดินและรายละเอียดอื่นๆ เพื่อให้ผักสวนครัวเติบโตแข็งแรงและสวยงามตามต้องการ ซึ่งถือเป็นการฝึกฝนทักษะที่ถนัดอยู่แล้ว หรือไม่เคยรู้มาก่อนเลยด้วยได้นั่นเอง
เริ่มกันที่พืชผักสวนครัวที่ได้รับความนิยมตลอดกาลอย่างต้นกะเพรา เพราะเป็นผักสวนครัวที่ปลูกง่ายแม้ในพื้นที่จำกัด โดยสามารถปลูกลงได้ทั้งพื้นดินและในกระถาง ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก เพียงรดน้ำเป็นประจำทุกวัน
ประโยชน์ : แก้หวัด ช่วยขับลม ลดอาการแน่นท้อง
วิธีปลูก : แนะนำให้ใช้วิธีชำกิ่งเพื่อให้ต้นโตเร็ว โดยให้เลือกกิ่งกลางแก่กลางอ่อน และให้ปักเอียงลงดินในลักษณะ 45 องศา พร้อมรดน้ำให้ชุ่มและคอยใส่ปุ๋ยตามพอเหมาะ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ใบกะเพราไว้ทำอาหารเข้าครัวแล้ว
โหระพา
ตามมาติดๆ คือใบโหระพา วัตถุดิบสำคัญที่อยู่คู่ครัวไทยมาตลอด ด้วยกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์และมีสรรพคุณช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ทั้งยังปลูกง่ายและโตเร็วเป็นอย่างมาก เคล็ดลับในการปลูกคือ หลีกเลี่ยงการวางกระถางกลางแจ้งหรือโดนแสงแดดแบบจัดๆ เพื่อให้ต้นโหระพามีใบสดสวยนั่นเอง
ประโยชน์ : ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอล และเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย
วิธีปลูก : เตรียมดินใส่กระถางก่อนหว่านเมล็ดโหระพาให้พอเหมาะ จากนั้นให้คลุมด้วยแกลบเป็นขั้นตอนสุดท้าย และหมั่นรดน้ำทุกเช้าเย็นเป็นประจำ
สำหรับใครที่ชอบเข้าครัวทำอาหารเป็นประจำ ต้องไม่พลาดการปลูกต้นพริกแน่ๆ โดยเราสามารถเลือกพันธุ์ที่มีระดับความเผ็ดได้ตามใจชอบ เช่น พริกหวาน พริกขี้หนู พริกจินดา พริกชี้ฟ้า เป็นต้น
ประโยชน์ : ช่วยขับเหงื่อ ขับลม และช่วยให้เจริญอาหารได้ดี
วิธีปลูก : โดยการปลูกต้นพริกให้นำเมล็ดพริกที่จะปลูกไปแช่น้ำอุ่นเอาไว้ก่อน 1 วัน ก่อนจะนำมาผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จากนั้นนำเมล็ดพริกลงปลูกในพื้นดินหรือกระถาง โดยหมั่นรดน้ำให้ชุ่มทั้งเช้า-เย็น พร้อมพรวนดินอย่างเหมาะสม แต่ระมัดระวังอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณใต้กระถางเพราะอาจทำให้ต้นเน่าได้
อีกหนึ่งการปลูกผักสวนครัวในบ้านที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะใช้พื้นที่การปลูกน้อยและค่อนข้างดูแลง่าย ทั้งยังเป็นผักสวนครัวที่อยู่ในหลายๆ สูตรอาหาร ช่วยเพิ่มกลิ่นและหน้าตาเมนูอาหารให้เฮลตี้ขึ้น
ประโยชน์ : บรรเทาอาการปวดหัว ลดความดันในเลือด และช่วยต้านอนุมูลอิสระ
วิธีปลูก : อยากปลูกผักสวนครัวในกระถาง ผักชีฝรั่งสามารถทำได้ โดยใส่ดินและกาบมะพร้าวลงกระถางก่อนปักชำ จากนั้นให้ปักผักชีฝรั่งลงไปและลดน้ำให้ชุ่ม แนะนำให้วางกระถางในพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึงเล็กน้อย หลีกเลี่ยงการวางไว้บริเวณกลางแจ้ง
หากพูดถึงผักใบเขียว หรือผักสวนครัวที่กินง่าย ผัดง่าย แถมใช้ทำอาหารได้หลากหลายเมนู ผักกวางตุ้งคือผัดยอดฮิตที่บรรดาแม่อยากเป็นปลูกผักสวนครัวไว้ในบ้าน ยิ่งหากบำรุงดูแลดีก็จะเริ่มเก็บลำต้นมาใช้ประกอบอาหารได้เร็วขึ้นด้วย
ประโยชน์ : บำรุงสายตาและกระดูก ลดการเกิดตะคริว ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายในร่างกาย
วิธีปลูก : โดยให้เริ่มต้นเพาะเมล็ดในช่วง 20-25 วันแรกในถาดพลาสติก ประมาณ 1-2 เมล็ดและกลบดินที่ผสมปุ๋ยหมักให้เรียบร้อย พร้อมรดน้ำพรวนดินอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง จากนั้นให้ย้ายต้นผักไปลงกระถางในช่วงวันที่ 25-30 ต่อไป
หากพูดถึงการปลูกผักสวนครัวในบ้าน ต้องไม่พลาดต้นมะกรูดในบ้านเป็นแน่ ด้วยเพราะเป็นการเพาะปลูกที่ดูแลง่ายและเริ่มต้นปลูกง่ายอย่างหนึ่ง ทั้งยังถูกใช้เป็นวัตถุดิบติดห้องครัวในหลายๆ บ้าน แถมยังให้กลิ่นหอมของสมุนไพรจากใบมะกรูดได้อีกด้วย
ประโยชน์ : แก้วิงเวียนศีรษะ ช่วยขับลมและลดอาการแน่น จุกเสียด
วิธีปลูก : เตรียมดินปนทรายที่ผสมปุ๋ยคอกลงในกระถาง และนำเมล็ดมะกรูดตากแห้งมาลงดินที่เตรียมไว้ และรดน้ำให้ชุ่มแบบพอดีๆ โดยแนะนำให้ยกกระถางไปโดนแดดอย่างน้อยวันละ 8 ชม. ระมัดระวังน้ำท่วมขังที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้รากเน่านั่นเอง
โรสแมรี่
พืชสมุนไพรฝั่งฝรั่งที่ใช้เข้าครัว และประดับตกแต่งสวนให้สวยงามขึ้นได้ จนถูกนำมาใช้ปลูกเป็นผักสวนครัวในบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ บวกกับลักษณะของลำต้นที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้บริเวณบ้านได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ : ช่วยย่อยอาหารและอาการจุกเสียด มีฤทธิ์ช่วยต้านแบคทีเรียตามธรรมชาติ
วิธีปลูก : นำเมล็ดพันธุ์มาปักชำลงในกระถางที่สามารถระบายน้ำได้ดี จุดเด่นของการปลูกต้นโรสแมรี่คือการเลือกตำแหน่งที่ตั้งให้ดีและมีอากาศระบาย แสงแดดสาดส่องถึงได้ตลอดทั้งวัน เพียงหมั่นดูแลรดน้ำ 1-2 วันต่อครั้งในช่วงเช้า โดยมีสิ่งที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องของศัตรูพืชและแมลงนั่นเอง
ใครชอบรับประทานอะไร หรือชอบต้นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม ก็สามารถนำมาปลูกประดับในสวนด้วยได้ ลองเปลี่ยนพื้นที่ว่างในสวนให้เต็มไปด้วยผักสวนครัวในกระถางก็ช่วยให้บ้านดูมีสีสันและเฮลตี้ขึ้นได้!
อ่าน LH Living Tips ดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.lh.co.th/th/lh-living-concept/living
รับชมโครงการน่าสนใจ คลิก https://www.lh.co.th/th
ติดต่อสำนักงาน โทร. 1198
เปิดทำการทุกวัน (ในเวลา 09.00-17.30 น.)