แชร์เคล็ดลับ 8 วิธีประหยัดไฟในบ้าน หมดห่วงเรื่องบิลค่าไฟไปได้เลย

แชร์ 8 เคล็ดลับวิธีประหยัดไฟในบ้าน ลดค่าไฟแบบง่ายๆ ที่คุณอาจมองข้าม

สถานการณ์ปัจจุบันที่หลายบ้านมีการโอดครวญถึงค่าไฟที่แพงขึ้น แม้จะใช้ไฟเท่าเดิมก็ตาม แต่ค่าไฟแพงเกิดจากอะไร และตัวแปรอย่างค่า Ft ที่ขยับอยู่ตลอด คืออะไรกัน? ตามไปหาคำตอบกัน ซึ่งความหมายของ ค่า Ft นั้นคือ สูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือค่าไฟฟ้าผันแปร เป็นค่าไฟฟ้าที่ปรับเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้า ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของการไฟฟ้า ประกอบไปด้วย ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่า Ft + ภาษีมูลค่าเพิ่มบทความนี้เราจึงขอนำเสนอเคล็ดลับวิธีประหยัดไฟฟ้าในบ้านแบบง่ายๆ ลดค่าไฟได้จริง ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้าง ไปดูกัน



วิธีประหยัดไฟในบ้านแบบง่ายๆ มีด้วยกันหลากหลายวิธี ดังนี้

1. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้ง 

หลังจากใช้งานเรียบร้อยแล้ว ควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เพราะถึงแม้ว่าจะปิดสวิตซ์ไฟแล้ว ก็ยังคงมีกระแสไฟฟ้าหลงเหลืออยู่ภายในพร้อมใช้งานได้ทันที ทำให้หลายๆ บ้านต้องสิ้นเปลืองพลังงานไปโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือความไม่ปลอดภัยภายในบ้านอีกด้วย



2. ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม

หนึ่งในการประหยัดไฟอย่างถูกวิธี คือการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมซึ่งควรปรับให้อยู่ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียส และยิ่งไปกว่านั้น หากคุณสามารถเปิดเครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น หรือตั้งค่าการปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้าก่อนตื่นนอนอย่างน้อย 30 นาที ก็จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดพลังงานและลดค่าไฟได้มากขึ้น



3. ติดผ้าม่านกันความร้อน

การเลือกติดผ้าม่านประเภทกันความร้อน หรือผ้าม่านที่ช่วยสะท้อนรังสียูวี (UV) ไว้ภายในบ้าน เป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดไฟที่ช่วยให้ห้องต่างๆ ไม่ร้อนมากจนเกินไป เมื่อห้องกับพื้นบ้านไม่ต้องเก็บสะสมความร้อนเอาไว้ทั้งหมด จึงทำให้ผู้อาศัยสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบาย ไม่ต้องใช้งานเครื่องปรับอากาศมากเกินความจำเป็น



4. ติดกระจกเขียวตัดแสง

กระจกเขียวตัดแสง เป็นกระจกที่แสงสว่างสามารถเข้าถึงได้ประมาณ 75% แต่ถึงอย่างนั้น ความร้อนต่างๆ กลับผ่านเข้ามาได้เพียงแค่ 49% เท่านั้น กล่าวคือ เมื่อกระจกยอมให้แสงสว่างผ่านได้ถึง 75% ทำให้ภายในบ้านดูสว่างจากแสงธรรมชาติมากยิ่งขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ เนื่องจากมีแสงสว่างเพียงพอต่อการใช้งานต่างๆ อีกทั้ง การที่ความร้อนต่างๆ สามารถผ่านกระจกเข้ามาได้เพียง 49% จะช่วยให้บ้านเย็นสบาย เพราะความร้อนผ่านเข้ามาได้น้อยนั่นเอง สามารถอยู่อาศัยได้แม้ไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสบายตาแก่ผู้อยู่อาศัย จึงเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าในบ้านง่ายๆ ที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งบ้านของโครงการ “Land & Houses” ได้ติดตั้งกระจกเขียวตัดแสงเช่นกัน เพราะเราคิดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของผู้อยู่อาศัยในทุกโครงการ เพื่อช่วยให้ทุกคนในครอบครัวอยู่สบาย ช่วยลดค่าไฟและประหยัดพลังงานได้อีกด้วย


5. เลือกใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน

ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปิดใช้งานหลอดไฟได้ แต่ก็ยังสามารถประหยัดไฟได้ด้วยการเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน อย่างหลอด LED ที่ให้ความสว่างเพียงพอ แถมยังใช้ไฟน้อยกว่าหลอดไฟแบบเดิมๆ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดไฟที่ทำได้ง่าย อีกทั้งคุณสามารถใช้งานหลอดไฟไปพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ด้วย


6. ซักผ้า หรือรีดผ้าครั้งละจำนวนมาก

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการใช้เครื่องซักผ้า หรือการรีดผ้าในแต่ละครั้งนั้นใช้พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างมาก ดังนั้น การที่เราใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ ควรใส่ผ้าให้เต็มกำลังของเครื่องซักผ้า หรือรีดผ้าครั้งละจำนวนมาก จะช่วยให้สามารถประหยัดไฟได้มากกว่าการใช้จำนวนน้อยแต่บ่อย ครั้งเสียอีก จึงแนะนำว่า ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองเพื่อลด ความถี่ในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าลง เท่านี้ก็สามารถช่วยให้ประหยัดพลังงานต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น 



7. เปิดหน้าต่างระบายความร้อนรับลมธรรมชาติ

วันที่อากาศดีๆ แสงแดดไม่ร้อนจัดจนเกินไป คุณสามารถเปิดหน้าต่างใช้แสงสว่างจากธรรมชาติแทนการใช้หลอดไฟได้ อีกทั้งการเปิดหน้าต่างยังเป็นการถ่ายเทอากาศภายในบ้าน ให้ความร้อนถูกระบายออกไปอีกด้วย เมื่อลมธรรมชาติไหลเวียนเข้ามาแทนที่ อากาศเสียภายในห้องถูกระบายออกไป ก็จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น เย็นสบาย เป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่ช่วยประหยัดไฟในบ้านได้เช่นกัน



8. ปลูกต้นไม้รอบบ้านลดความร้อน 

การปลูกต้นไม้เป็นวิธีคลาสสิกที่หลายๆ คนมักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความเชื่อเหล่านี้สามารถใช้ได้จริง และมีประโยชน์หลากหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึง เพราะต้นไม้บางชนิดสามารถช่วยคลายความร้อนบริเวณรอบๆ บ้านได้ อีกทั้งยังเพิ่มอากาศบริสุทธิ์และความสวยงามให้แก่บ้านของเราอีกด้วย เช่น ว่านหางจระเข้ เฟิร์น พลูด่าง ลิ้นมังกร ฯลฯ นอกจากนี้ หากใครที่มีพื้นที่กว้างๆ เหลืออยู่ ก็สามารถเลือกปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อบดบังแสงแดด ทำให้คุณมีพื้นที่นั่งเล่นนอกบ้านเพิ่ม เพราะต้นไม้ใหญ่จะช่วยให้ร่มเงา รู้สึกเย็นสบาย ผ่อนคลายไปกับอากาศบริสุทธิ์อีกด้วย


หากใครที่ยังกังวลกับค่าไฟฟ้าอยู่เราลองมาดูเกณฑ์การคิดค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง เพื่อคำนวณปริมาณการใช้ไฟในแต่ละเดือนได้ถูกต้องกัน 

  1. อัตราปกติปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน    

อัตรารายเดือน                   

ค่าพลังงานไฟฟ้า  

15 หน่วย (กิโลวัตต์ชั่วโมง) แรก  ( หน่วยที่ 1 – 15 )
หน่วยละ   2.3488  บาท
10 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 16 – 25)    
หน่วยละ   2.9882  บาท
10 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 26 – 35)      
หน่วยละ   3.2405  บาท
65 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 36 – 100)     
หน่วยละ   3.6237  บาท
50 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 101 – 150)   
หน่วยละ   3.7171  บาท
250 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 151 – 400)
หน่วยละ   4.2218  บาท
เกินกว่า  400 หน่วย (หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป) หน่วยละ   4.4217  บาท
ค่าบริการ  (บาท/เดือน ) :  8.19


  1. อัตราปกติปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าเกินกว่า  150  หน่วยต่อเดือน      

อัตรารายเดือน               

ค่าพลังงานไฟฟ้า

150 หน่วย (กิโลวัตต์ชั่วโมง) แรก (หน่วยที่ 1 – 150)  
หน่วยละ  3.2484  บาท 
250 หน่วยต่อไป  (หน่วยที่ 151 – 400)
หน่วยละ  4.2218  บาท 
เกินกว่า 400 หน่วย  (หน่วยที่ 401  เป็นต้นไป)
หน่วยละ  4.4217  บาท 
ค่าบริการ  (บาท/เดือน ) : 38.22 

*อ้างอิงข้อมูลจากการไฟฟ้านครหลวง


เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ 8 วิธีประหยัดไฟฟ้าในบ้านที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าคงจะช่วยตอบคำถามค่าไฟแพงเกิดจากอะไรที่หลายคนสงสัยได้แล้ว รับรองว่าถ้าทำได้ครบทุกข้อที่เราแนะนำ ไม่เพียงช่วยลดภาวะโลกร้อน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่โลกของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ค่าไฟลดลง แถมช่วยให้บ้านเย็นขึ้นอีกด้วย 

อ่านเคล็ดลับดีๆ เพื่อการอยู่อาศัยเพิ่มเติม คลิก https://www.lh.co.th/th/lh-living-concept/living 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ